“Finding your own Paradise”
คนเราทุกคน มักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับตัวเองครับ กระทั่งการเลือกซื้อคอนโด เวลาจะเลือกซื้อทั้งที อาจต้องใช้เวลาเลือกนานหน่อย เพราะราคานั้นก็ไม่ได้เบาเลย
ซึ่งโดยปกติเราจะดู Function ต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวก ความสะดวกสบาย การบริการ หรือแม้กระทั่งนิติบุคคล เพื่อให้เหมาะสมกับ lifestyle ของแต่ละคน แต่ว่าต่อให้เราเลือกดีแค่ไหน คอนโดดีเยี่ยม หรือชื่อเสียงดีแค่ไหน ก็เลี่ยงปัญหาในตัวคอนโดไม่ได้
โดยในวันนี้ผมจะพาไปดูครับ ว่าปัญหาต่าง ๆ ที่คนอยู่คอนโดมักจะเจอกัน คืออะไรบ้าง และถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ ก็มาทำความรู้จักกับปัญหาเหล่านั้น เพื่อเตรียมรับมือกัน
โดยบทความนี้ จะยกเอาปัญหาที่พบเจอบ่อยสุด มาทั้งหมด 7 ข้อ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ
1. สถานที่จอดรถ
ปัญหาเรื่องของสถานที่จอดรถนั้น นับเป็นปัญหาต้น ๆ ของคอนโดเลยก็ว่าได้ครับ และเป็นปัญหาก้าวแรกของการเข้าคอนโดเลยด้วยซ้ำ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ อยู่แค่ว่า เราจะเจอเมื่อไหร่เท่านั้นเอง ซึ่งตามข้อกำหนดของโครงการ สถานที่จอดรถที่ให้บริการ จะมีอัตราส่วนเป็น 30% ของจำนวนห้อง ซึ่งถ้าลูกบ้านที่อยู่อาศัยในโครงการนั้น ๆ เป็นผู้อยู่อาศัยจริง หรือ End User ส่วนมากก็จะมีรถส่วนตัวไว้ใช้เอง จึงทำให้ปัญหาเรื่องของที่จอดรถไม่เพียงพอ เป็นปัญหาที่พบเจอบ่อยมาก
ซึ่งหากเจอปัญหานี้ให้เราไปทำการติดต่อกับทางนิติบุคคลหรือเจ้าหน้าที่บริเวณนั้น กรณีนี้ส่วนมากนิติบุคคลจะอนุญาตให้เราจอดซ้อนคัน หรือ จอดรอบตัวอาคารได้เลย แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการ การรับมือของนิติบุคคลแต่ละโครงการด้วย
2. ลิฟท์ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ลิฟท์ไม่พอต่อความต้องการ หรือ ลิฟท์ช้า นั่นคือการที่ลิฟท์ถูกกดเรียกพร้อม ๆ กัน หรือเกิดการใช้งานพร้อม ๆ กัน ซึ่งโดยปกติแล้ว ลิฟท์โดยสารของโครงการ จะออกแบบมาเพื่อให้รองรับความต้องการของลูกบ้าน โดยใช้อัตราส่วน คือ ลิฟท์ 1 ตัว ต่อ 100 ห้อง หรือ 1 ตัวควรรองรับไม่เกิน 100 ห้อง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ดังนั้นการใช้ลิฟท์พร้อม ๆ กัน แล้วทำให้เกิดลิฟท์มาถึงชั้นของเราช้า จึงเป็นปัญหาที่เราอาจไม่ได้เจอบ่อย แต่เป็นปัญหาเล็กที่กวนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอคนโดเพื่ออยู่อาศัย หรือเพื่อพักผ่อนก็ตาม เราจึงจำเป็นที่จะต้องทำการบ้าน ว่าคอนโดเราเป็นแบบไหน แล้วลิฟท์นั้นสอดคล้องกับจำนวนห้องของคอนโดเรารึเปล่า เพราะถึงแม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ที่ทำให้อยู่ไม่ได้เลย แต่ก็สร้างความน่าหงุดหงิดหรือเสียเวลาแก่เราได้
3. สัญญาณโทรศัพท์
ปัญหานี้ก็ท็อปไม่แพ้ปัญหาอื่น ๆ เลยครับ บางจุดของโครงการก็ไม่มีสัญญาณ ห้องของเราเอง หรือแม้กระทั่งตรงส่วนกลางในที่โล่งเองก็ตาม ซึ่งปัญหาอาจมาจากตัวโครงการ มีสิ่งปลูกสร้างในตัวอาคาร หรืออะไรก็ตาม มากั้นการส่งสัญญาณมากเกินไป หรือไม่ได้ติดตั้งตัวขยายสัญญาณเครือข่ายที่เราใช้บริการ จึงทำให้สัญญาณโทรศัพท์ ส่งมาไม่ถึง ติด ๆ ดับ ๆ บางห้องกลายเป็นจุดอับสัญญาณ ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ โทรเข้าโทรออกได้เลย
หากเจอปัญหาเหล่านี้ เราก็อาจจำเป็นที่จะต้องไปพูดคุยกับทางฝ่ายนิติบุคคลเพื่อให้เขาช่วยติดต่อกับทางค่ายผู้ให้บริการ มาทำการติดตั้งตัวขยายสัญญาณให้เรา ซึ่งหากไม่มีอะไรคืบหน้า เราก็คงจะต้องย้ายค่ายเองสะเลย
4. เพื่อนบ้าน
ปัญหาเพื่อนบ้าน จะมาในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องการใช้งานส่วนกลาง หรือ ปัญหาหลัก ๆ ของเพื่อนบ้านเลย คือเสียงรบกวน เนื่องจากคอนโดมิเนียม เป็นที่อยู่อาศัยกำแพงเดียวกันกับลูกบ้านคนอื่น ๆ (เว้นแต่คุณจะเหมาชั้นเลยน่ะนะ ) ก็อาจจะมีบ้าง ที่จะมีเสียงพูดคุย ดูหนัง ฟังเพลง หรือเสียงอะไรที่มันดังเกิน จนทะลุกำแพงมาถึงห้องเรา สร้างความวุ่นวายให้เรามาก ๆ โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องการสมาธิ และกลางดึก
ซึ่งเราก็อาจจะต้องใช้วิธีการ อะลุ่มอล่วยสักนิดนึงก่อนคุยกับเพื่อนบ้าน ผ่อนหนักผ่อนเบาให้กันบ้างตามแต่สถานการณ์ก่อน เช่น อาจจะเขียนข้อความลงบนกระดาษ แล้วสอดเข้าไปในห้องให้เขารับรู้ หรือ เอามาแปะไว้ที่หน้าประตู ให้เขาช่วยลดปริมาณลงหน่อย เพื่อมาอยู่ในเกณฑ์ที่เรารับได้ ซึ่งถ้าหากว่ายังคงไม่ได้ผล เราก็จำเป็นที่จะต้องไปคุยกับทางฝ่ายนิติบุคคลโดยตรง เพื่อที่ให้เขาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาให้เรา แต่ถ้าหากคุณไม่ได้สนใจเรื่องความวุ่นวาย ซับซ้อน เสียเงินเสียทองในกระเป๋า การควักเงินจ่าย ทำผนังกันเสียง ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเช่นกันนะครับ
5. ควันบุหรี่
ปัญหานี้จะเกิดขึ้น หาเราไม่ได้สูบบุหรี่ แต่เพื่อนบ้านเราจัดหนักจัดเต็ม ซึ่งนอกจากจะเป็นมลภาวะทางอากาศแล้วนั้น ยังเป็นต้นเหตุของปัญหาทางด้านสุขภาพด้วย และว่ากันตามตรง คนเอเชียเนี่ย.. สูบบุหรี่กันจัดมากครับ ไม่ว่าจะเป็นพี่ไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง และยิ่งถ้าเราไม่ได้สูบบุหรี่ด้วย ก็จะยิ่งก่อความน่ารำคาญให้เรามากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งหากเราได้กลิ่นควันบุหรี่มายังในห้องของเรา เราจะต้องแจ้งทางฝ่ายนิติบุคคล ให้เขาช่วยควบคุม เพื่อไม่ให้ก่อความวุ่นวาย แก่ลูกบ้านคนอื่น ๆ เพราะนอกจากความน่ารำคาญแล้ว ยังมีผลเสียที่ส่งผลทางด้านสุขภาพในระยะยาวแก่ผู้ได้รับควันบุหรี่อีกด้วย โดยหากเราไม่รู้ว่าควันบุหรี่นั้นมาจากห้องไหน เขาก็จะทำการควบคุมปัญหาไปยังบริเวณห้องรอบ ๆ ห้องของเราให้
6. การรักษาความปลอดภัยไม่เคร่งครัด
ความปลอดภัย เป็นเรื่องสำคัญมากของคอนโด คอนโดแต่ละโครงการ จะทำการสแกนตัวลูกบ้านตั้งแต่มาถึงประตูทางเข้า โดยให้ทำการแสดงบัตรยืนยันตนหรืออะไรก็ตามที่ทางโครงการใช้เพื่อยืนยันตัวลูกบ้าน ก่อนอนุญาตให้เข้าไปข้างใน แต่บางโครงการก็ไม่ได้เคร่งขนาดนั้น เจ้าหน้าที่บางโครงก็อาจจะมองว่า ผู้ที่เดินเข้าไปในโครงการนั้น ๆ อาจจะเป็นลูกบ้านของโครงการนี่แหละ จึงไม่ได้ตรวจสอบอย่างจริงจัง แล้วก็ปล่อยให้เข้าไปโดยที่ ไม่ตรวจเช็คอะไรเลย บ้างก็ดูแล ตรวจเช็คพื้นที่ต่างได้ไม่ทั่วถึง จึงทำให้มีคนนอกเข้ามาในอาคาร เดินเนียนตามเข้าตัวอาคาร โดยที่ลูกบ้านคนอื่นเป็นคนสแกนบัตรเข้า หรือการเข้ามาแอบอ้างใช้ส่วนกลาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดเหตุการร้ายแรงขึ้นได้ ทั้งนี้ อย่ารำคาญเจ้าหน้าที่ของโครงการเวลาเค้าขอตรวจเอกสารของคุณเลยครับ ทุกคนแค่ทำตามหน้าที่ และให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของคุณและลูกบ้านท่านอื่น ๆ เป็นอันดับแรกนั้นเอง
7. นิติบุคคลไม่มีประสิทธิภาพ
“นิติบุคคล คือ หน้าตาของโครงการ” ทุกข้อที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ว่าจะลูกบ้าน หรือ เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ แจ้งเรื่องร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือ ไปทางฝ่ายนิติบุคคล นิติก็จะเข้ามาทำการแก้ปัญหาต่าง ๆให้ หากปัญหาเกิดมา แล้วทางนิติบุคคล แก้ไขเพื่อลดปัญหานั้น หรือแก้เพื่อให้ไม่เกิดปัญหานั้นซ้ำขึ้นมาอีก ก็จะดีที่สุด และจะยิ่งทำให้โครงการนั้น ๆ เป็นโครงการที่ดีเยี่ยมไปเลยทีเดียว เพราะนิติบุคคลมีหน้าที่ที่จะต้องควบคุม ดูแล แก้ไขในส่วนต่าง ๆ ของคอนโด เพื่อทำให้คอนโดดูดี มีราคาอยู่ตลอดเวลา
ในทางกลับกันนั้น หากนิติบุคคลไม่มีประสิทธิภาพ ปัญหาต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิม นิติบุคคลปล่อยปะละเลย ไม่ใส่ใจ ก็จะทำให้ตัวโครงการนั้น ๆ ดูหมดราคาไปเลย
และถ้าหากคอนโดที่เราอยู่ มีฝ่ายนิติบุคคลที่เข้าข่ายไม่มีประสิทธิภาพ ก็อาจจะขอความร่วมมือจากเขา โดยการไปพูดคุยกับเขาโดยตรง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับปรุง และใส่ใจคอนโดให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าหากว่า ยังคงเดิมเป็นเหมือนเดิม ก็อาจจะต้องรวมตัวกันกับลูกบ้านคนอื่น ๆ เพื่อแจ้งให้บริษัทนิติทำการโยกย้ายฝ่ายนิติบุคคลให้เรานั่นเอง
ไม่ว่าจะบ้าน หรือ คอนโด ทุกที่ล้วนมีปัญหา ต่างกันแค่ว่า ปัญหาที่เราเจอนั้นต่างกันตามแต่ละสถานที่ บริบท ซึ่งไม่ว่าจะมีปัญหามาก หรือ น้อย ก็ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าปัญหาที่ยกมานั้น เป็นของที่คู่กับทางคอนโดอยู่แล้ว และทุกข้อที่ยกมานั้น คนเขียนบทความนี้ ต่างก็เคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะที่จอดรถไม่เพียงพอ กับ สัญญาณโทรศัพท์ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้น ต่อให้เลือกดีแค่ไหนยังไงก็ต้องมีปัญหามาให้เราพบเจออยู่บ้าง สุดท้ายแล้ว ตัวเราเองที่จะเข้ามาอยู่หรือซื้อคอนโดนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องทำการบ้านให้มากเข้าไว้ ตรวจเช็คภาพรวมทั้งหมด สอบถามกับทางผู้ขายห้อง และศึกษาโครงการ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคอนโดนั้น ๆ เพื่อป้องกันปัญหา หรือเลี่ยงปัญหาให้ได้มากที่สุด หรือลองใช้บริการตัวแทนที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ หรือติดต่อมายัง Pattaya Paradise ดูสิครับ เรายินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือทุกท่านอย่างดี และไม่มีค่าใช้จ่ายครับ 🥰